เมื่อวานนี้ ได้มีโอกาสปรึกษาวิทยานิพนธ์กับอาจารย์ที่ปรึกษา ก็ได้นำเสนอด้วย Powerpoint ไปเรื่อยๆ และแล้วก็ได้ไปสะดุดอยู่ที่บรรทัดทีอ้างอิงชื่อเจ้าของผลงานวิจัยใน slide หน้าหนึ่ง ซึ่งปรากฎชื่ออาจารย์ผมอยู่ด้านหน้าตามด้วยชื่อผู้ร่วมวิจัย ผมถาม อ. ว่าชื่อด้านหลังนี้คือใคร อ. ตอบว่าเป็น อ. ของผมเอง (เอ่อ ประมาณว่าเป็น อ. ปู่ของผมเหมือนในหนังจีนหรือไงหว่า) ผมก็อดนิสัยเสียเป็นเจ้าหนูจำมัยไม่ได้ว่า แล้วทำไมชื่อ อ. อยู่หน้าล่ะ แกก็บอกเป็นการให้เกียรติเจ้าของผลงานตัวจริง แต่ อ. ที่ปรึกษาบางคนเขาก็ไม่สน เอาชื่อตัวเองขึ้นก่อนลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าของผลงาน โดยส่วนตัวผมคิดว่า (แต่ไม่ได้บอกไป ประมาณว่ารักเธอแต่เธอไม่รู้ แฮ่ม) ถ้าไม่มี อ. ที่ปรึกษาแล้วเด็กจะจบได้อย่างไร ไอเดียส่วนใหญ่ผมเชือว่า อ. เป็นคนลาก ถางทางมาให้จนเราคลิ๊ก ก็เลยคิดว่าควรใช้ชื่อ อ. ขึ้นก่อน (ถ้าคิดในกรณีที่ว่าเราเป็นคนจ่ายค่าเทอมก็อีกเรื่อง อิอิ) … ประเด็นมันอยู่ที่ ผมเกิดคื้นฟืนความจำขึ้นมาได้ถึงสมัยตอนเรียนจบแล้วเริ่มทำงานใหม่ๆ ได้เจอกับหัวหน้างานซึ่งเป็นระดับผู้บริหารระดับกลางค่อนไปทางสูงท่านหนึ่ง ผมจำอะไรไม่ได้มากนักกับเรื่องงานต่างๆ ที่ท่านสอน แต่กลับจำได้แม่นอยู่เรื่องหนึ่งคือ การใช้ชื่อเราร่วมกับคนอื่นให้ใส่ชื่อเราไว้ท้ายสุดเสมอ มันเข้าใจได้ไม่ยากหรอก ว่าเป็นการให้เกียรติและนอบน้อมต่อผู้อื่น จากนั้นมาตั้งแต่การทำงานในองค์กรแห่งนั้น จนถึงบัดนี้ ถ้าไม่เผลอหรือจำเป็นอะไร ก็จะใส่ชื่อตัวเองไว้ด้านท้ายเสมอ ไม่ว่าะเป็น รายงานการประชุม อีเมล์ หรือเอกสารอื่นๆ … อีกมุมมองหนึ่งที่ผมมองต่อเหตุการณ์นี้คือ อ. คิดว่าชื่อเจ้าของผลงานควรอยู่หน้า แต่ผมคิดว่าชื่อ อ. ควรมาก่อน มันเป็นการรักษาผลประโยชน์ของคนอื่น ไม่ใช่ของเราเอง ตรงนี้ที่ผมมองว่าถ้าสังคมเราไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่คนอื่นบ้าง ตามเหตุผลที่สมควร อะไรๆ น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ครับ