ในเมื่อความรู้คืออำนาจ คือโอกาสในการสร้างคุณประโยชน์ แต่ทำไมหลายคนจึงใช้เพื่อธุรกิจ เพื่อองค์กร มากกว่าการใช้กับคุณภาพชีวิตโดยตรง ภรรยาผมเล่าว่าเธอไม่เคยคุยกันหรือคำนึงในเรื่องโปรโมชั่น ส่วนลด สิทธิพิเศษ ของสินค้าและบริการเลย ทั้งที่มันคือโอกาสเพิ่มความฉลาดรู้และเรียนรู้วิธีคิด (ผมถือว่าเป็นนึงในคุณลักษณะสำคัญของ Intelligent Customer) ของนักการตลาด มากกว่ามองเป็นเรื่องความตระหนี่ หากเราทราบว่าสินค้าหรือบริการเดียวกันสามารถได้มาในราคาที่ต่างกันเพราะต่างเวลาหรือมีเงื่อนไขบางอย่างเราจะทำอย่างไร หรือไม่ทำอะไรเลย ขอให้ได้มาทันทีที่ต้องการเพียงเท่านั้น กรณีหลังนี้ น่าจะทำให้คุณกลายเป็นลูกค้าชั้นดีได้ไม่ยาก หากคุณยังคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับกรณีแรก ฟังเหมือนจะดูดี แต่ในอีกแง่หนึ่งนั้น ลูกค้ากลุ่มแรกต่างหากที่จะเป็นวัคซีนส่งเสริมให้ธุรกิจแข่งแรงยั่งยืนได้ในระยะยาว อาจกล่าวได้ว่าการมีลูกค้าดี เป็นศรีแก่ตัว ยิ่งมีลูกค้าฉลาด ธุรกิจก็ดูฉลาดเป็นเงาตามตัว สำหรับกรณีแรก หากคุณอุตส่าห์รู้ถึงโอกาส และยอมรับเหตุผลมากกว่ายอมอ่อนข้อให้กิเลส เพื่อประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นการปฏิบัติอย่างมีระเบียบวินัยเพื่อเพิ่มโอกาสให้เกิดสภาวะเชิงกลยุทธ์ “ถูกที่ ถูกเวลา” อันนำไปสู่นิสัยการพิจารณาต่อสิ่งที่เกิด ให้รู้เท่าทัน อย่างเป็นระบบ สม่ำเสมอ อันเป็นรูปแบบ (กึ่ง) ปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน เพียงเท่านี้ก็อาจเรียกได้ว่า การตลาดเป็นเครื่องมือเพิ่มคุณภาพชีวิตแก่เรา (ซึ่งควรจะเป็นตามแนวคิดลูกค้าคือพระเจ้า หรือ Customer Centric) นอกจากจะเป็นแค่เครื่องมือของเขาหรือของธุรกิจ อีกต่อไป