มีคนจำนวนไม่น้อยที่เสาะแสวงหาแนวทางหรือวิธีการไปสู่ความสุขและความสำเร็จในชีวิต บ้างก็ขนขวายเรียนรู้ด้วยตนเอง บ้างก็เรียนรู้จากผู้อื่น แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็มักจะมีความคลุมเครือ จับต้องได้ยาก บางทีก็จับต้องไม่ได้เอาเสียเลย ความไม่เป็นรูปธรรมเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ยากต่อการนำไปปฏิบัติ จริงไหมครับ ผมขอขยายความเพิ่มติมสักนิดว่าการเรียนรู้ด้วยตนเองและการเรียนรู้จากผู้อื่น สิ่งที่ถูกถ่ายทอดไปมานั้น คือประสบการณ์กับองค์ความรู้ อะไรอื่นที่เราคิดได้ ก็มักจะเป็นส่วนหนึ่งในสองสิ่งนี้ ประสบการณ์ที่เรียนรู้มาด้วยตนเองส่วนใหญ่มาจากสิ่งต่างๆที่เราพบผ่านมาในช่วงชีวิตอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ ตั้งแต่การใช้ชีวิตแบบชิลๆ ไปจนถึงการตรากตรำคร่ำเครียดในเวลางาน ประสบการณ์ที่ได้รับมาจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง เพราะมักจะจับต้องไม่ได้ (Tacit Knowledge) การจะรับส่งประสบการณ์กันได้ จำเป็นที่ผู้รับผู้ส่งต้องมีศีลเสมอกัน หรือไม่ก็จะต้องมีกึ๋นกับเคมีที่ไม่ห่างกันจนเกินไป องค์ความรู้จากการเรียนด้วยตนเองเป็นรูปแบบที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไป ไม่มีใครที่ไม่มีความรู้ในตัวซึ่งมาจากวิธีการนี้ เพราะทุกคนต้องผ่านระบบการศึกษามาไม่มากก็น้อย การเอาตัวรอดในสภาพการแข่งขันที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคพึ่งพาความรู้เป็นเสาหลัก เราทุกคนจำเป็นต้องพึงพาตนเองในการให้ได้มาซึ่งองค์ความรู้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่การได้มาซึ่งองค์ความรู้ด้วยการเรียนรู้จากผู้อื่นก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีมุมมองกว้างขึ้น ได้มารวดเร็วขึ้น เผลอๆอาจจะได้มิตรภาพเพิ่มขึ้นเสียด้วย แต่โชคร้ายที่ความสุขและความสำเร็จในชีวิต ยากที่การสกัดและถ่ายทอดประสบการณ์กับองค์ความรู้ ถึงแม้ว่าจะมีสื่อ หนังสือ หรือคอร์สอบรมปรากฎอยู่เดื่อนดาด ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีความชัดเจนต่อการนำไปใช้ได้อย่างไร แต่ถ้าพบว่ามี แล้วทำไมเราต้องเชื่อด้วยความรู้สึกเหมือนว่ามีกรอบมากำหนด มันไม่ใช่ตัวเรา ทำไมต้องทำตาม !!! คุณเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า
ไม่ว่าคุณจะมีความคิดอย่างไร กรุณาอย่าปิดโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับแพลทฟอร์มดำเนินชีวิตแบบบูรณาการ (Integrated Life Platform) เสียก่อนหละ